ปีละครั้ง ทุกคนในครอบครัวของเราจะหาวันลาเพื่อไปเที่ยวด้วยกัน นอกจากจะเป็นการพักจากหน้าที่การงานแล้ว ก็เป็นการสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกัน เวลาไปเที่ยวก็มีเรานี่แหละที่ทำหน้าที่วางแผน ศึกษาเส้นทาง หาร้าน Must-Eat หามุมถ่ายรูปเก๋ๆ หรือหาตั๋วราคาถูก

ปีนี้จุดหมายปลายทางที่ได้รับการ Vote คือ Hong Kong ด้วยเหตุผลที่ว่า

1. มีวันหยุดเดือนตุลาคม แค่ 3 วัน 2 คืน ควรเลือกที่ใกล้ๆ
2. ไม่ต้องใช้วีซ่า
3. เป็นประเทศที่การคมนาคมสะดวกเอื้อต่อการท่องเที่ยว
4. ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ และ
5. มีติ่มซำอร่อยๆให้ทาน

ก่อนวางแผนว่าจะกินข้าวที่ไหนเที่ยวอะไรบ้าง เราต้องเริ่มจากการปักหมุดเลือก “ไฟลท์บิน” และ “ที่พัก” เพื่อให้ทราบเวลาที่เราไปถึง และสถานที่ที่จะเป็นฐานในการกลับมาพักผ่อน เราจองผ่าน Traveloka ที่แสนสะดวก ช่วยประหยัดเวลาเพราะสามารถจองทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พักได้ในเว็บเดียว แถมยังมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิิตกสิกรไทยที่เราถือด้วย ช่วยประหยัดงบในการเดินทางขึ้นไปได้อีก

สรุปได้สายการบิน Air Asia ขึ้นที่สถานีดอนเมืองใกล้บ้าน ไฟลท์เช้าสุด 06.35 น. ถึงฮ่องกงเวลา 10.15 น. และเลือกพักโรงแรม BP International บนเกาะเกาลูน อยู่ในละแวกจิมซาจุ่ย ใกล้ๆกับสวนสาธารณะ Kowloon Park ดูแล้วกินอยู่ง่าย เดินทางสะดวก ไปดูกันดีกว่า ว่าแผนการเดินทางในแต่ละวันมีอะไรบ้าง

Day 1: Arrival Date – The Peak – Trick Eye Museum – The Symphony of Lights
10:25 น.  เครื่องบินลง
11:25 น.  รอรับกระเป๋า และเดินทางเข้าเมืองโดย Airport Express Shuttle bus สาย K4 ลงป้ายที่ 5: B P International
12:00 น.  Check-in โรงแรม หรือ ฝากกระเป๋าไว้กับ Reception 
13:00 น.  ทานอาหารกลางวันที่ร้าน King’s Cuisine อยู่ติดโรงแรมเลย เห็น ลุงเด้งกับป้าไก่แห่ง Hong Kong Fanclub แนะนำว่าเป็นร้านที่ติมซำอร่อย ราคาไม่แพง
14:00 น. เดินให้อาหารย่อย ผ่านสวนสาธารณะ Kowloon Park และห้างต่างๆ ไปขึ้นเรือ Star Ferry ที่ท่าน้ำ
14:30 น. นั่ง Big Bus Tour เส้นสีแดงชมเมือง เหตุผลที่เลือกนั่งรถบัสท่องเที่ยวแทนการขึ้นรถไฟฟ้าก็เพราะไม่อยากให้คุณแม่เดินมากเกินไปค่ะ เดี๋ยวเจ็บเข่า  นั่งชมเมืองมาเรื่อยๆ ลงป้าย 6: The Peak
15:15 น. นั่ง The Peak Tram ขึ้นไปด้านบน
16:00 น.  นั่งพักขา หาของว่างทานใน The Peak Galleria 
16:30 น. ระหว่างรอเวลาขึ้นไปถ่ายวิวพระอาทิตย์ตกดิน เข้าไปถ่ายรูปเล่นใน Trick Eye Museum
17:30 น. ขึ้นไป Sky Terrace ถ่ายรูปวิว รอชมพระอาทิตย์ตกดิน  
18:15 น. นั่งรถ Tram กลับลงมาด้านล่าง และเดินไปหาอาหารเย็นทานย่าน Central  
19:00 น. นั่งเรือ Star Ferry ข้ามฟากกลับมาฝั่งเกาลูน
20:00 น. ชม The Symphony of Lights @ L’avenue des Stars.
20:30 น. กลับเข้าโรงแรม 

DAY 2: Ocean Park – Causeway Bay – Temple Street Night Market 

08:00 น. ตื่นสายหน่อยไม่ต้องรีบร้อน จะได้พักเหนื่อยจากที่เมื่อวานต้องรีบตื่นเช้าไปขึ้นเครื่อง
09:00 น. ลงไปทานอาหารเช้าของโรงแรมเพราะราคาห้องรวมค่าอาหารไปด้วยแล้ว ไม่ก็ไปทานโจ๊กที่ร้าน Hung Lee Congee
10:00 น. นั่งรถไฟฟ้าไปลมสถานี Admiralty ออก Exit B เพื่อต่อรถบัสสาย 629 ไป Ocean Park
10:30 น. เล่น Ocean Park ทั้งวัน โชคดีที่เดินทางมาช่วงที่เริ่มจัดเทศกาล Halloween เห็นว่าปีนี้ทำธีม Ghostbusters เห็นเมนูอาการแล้วน่ารักมา กะจะไปลองทานมารีวิวให้เพื่อนๆดู
15:00 น. เบื่อสวนสนุกก็ไปช้อปปิ้งแถว Causeway Bay 
18:00 น. ถ้าช้อปปิ้งนานจนเย็น ก็หาข้าวทานแถวนั้น แต่ถ้าเหนื่อยก่อนอาจกลับมาพักโรงแรม แล้วไปหาข้าวกินแถว Temple Street
19:00 น. เดินเล่นตลาดกลางคืน Temple Street Night Market หาของหวานทาน
20:00 น. กลับโรงแรม พักผ่อน 

Day 3: Ngong Ping 360, City Gate, Departure 
08:00 น. ตื่นนอน
09:00 น. ทานอาหารเช้าโรงแรมหรือร้าน Delicious Congee
10:00 น. Check-out. นั่งเมโทรจากสถานี Austin ไปลง Nam Cheong ต่อไปลงสถานี Tung Chung
11:00 น. ฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่ City Gate Outlet 
11:30 น. นั่งกระเช้าใส Ngong Ping ข้ามไปบนเขา 
12:00 น. ทานอาหารกลางวันที่ร้าน Garden Restaurant และของหวานที่ Honey Moon Dessert
13:00 น. เดินชม Tian tan Buddha, Wisdom Path,The Grand Hall of 10,000 Buddhas, Po Lin Monastery
15:00 น. นั่งกระเช้ากลับลงมา 
15:30 น. ช้อปปิ้ง City Gate Outlet
18:00 น. ทานอาหารเย็น 
19:00 น. นั่ง S1 Shuttle Bus ไปสนานบินเพื่อ Check-in  
21:35 น. เดินทางกลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ 

และนี่ก็คือแผนการเดินทางคร่าวๆ วันจริงก็อาจจะเก็บไม่ได้หมด และยังไม่ได้ลงรายละเอียดร้านอาหารเป๊ะๆ แต่มีลิสอยู่ในใจแล้ว โดยมีแผนสำรองไว้เผื่อว่าร้านปิด หรือคนเยอะจนเกินไปขี้เกียดรอนาน ถ้าใครมีอะไรแนะนำก็ Comment เข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ ไว้หลังกลับมาจากวันหยุดยาว 22-24 ตุลา บีจะมาทยอยทำรีวิวที่เที่ยวที่กินในฮ่องกงค่ะ    

BeeVer

บีเว่อร์ สุภาภิชญ์ ทรายแก้ว
นักเขียน บรรณาธิการบิวตี้อิสระ สาวนครสวรรค์ จบปริญญาโทด้าน Fashion and Luxury Brand Management จาก Istituto Marangoni Paris ผู้หลงใหลในการดูแลความสวยความงาม เวลาว่างชอบอ่านหนังสือการ์ตูน ดูซีรีย์เกาหลี และรายการ The Return of Super Man