ก่อนเชื้อไวรัสโควิดระบาดจนต้องปิดประเทศ ช่วงเดือนมีนาคม บีได้ไปเที่ยวเมือง “เซบู” ประเทศฟิลิปปินส์เป็นทริปต่างประเทศทริปสุดท้ายก่อนจะถูกล็อคดาวน์กันยาว ๆ นี่ก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง เชื่อว่า หลาย ๆ คนที่หลงรักการท่องเที่ยว รักการออกไปดูโลกกว้าง คงคิดถึงการแพ็คกระเป๋าออกไปเดินทางกันน่าดู 

ไหน ๆ สถานการณ์ในประเทศก็กำลังคลี่คลายลง บีไม่อยากดองรีวิวทริปท่องเที่ยวครั้งเก่าไว้อีกต่อไป เลยตัดสินใจ เลือกรูปงาม ๆ มาร้อยเรียงเรื่องราวถึงทริปเซบูให้ทุกคนได้อ่านกัน ถือว่าขอแปะภาพสวย ๆ ให้ดูไว้เป็นกำลังใจ ว่าโลกใบนี้นั้นสวยงามเพียงใด เมื่อสถานการณ์กลับมาปลอดภัย เราจะได้กลับไปท่องโลกกว้างกันอีกครั้ง

ส่วนใหญ่เซบูจะเป็น Destination ของคนรักการดำน้ำ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องทริปดำน้ำกับปลาวาฬ แต่ทริปนี้ไม่ได้มีน้องปลาวาฬให้ดูนะจ๊ะ เพราะครั้งนี้เรามาเที่ยวแบบ Very Tourist เก็บตกสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่จะต้องมาชมในเซบู และใน Ep. 1 นี้เราขอนำเสนอทริป Half-Day Trip นั่งเรือ Snorkeling เที่ยว Caubian Island

ขึ้นเรือที่ท่า
วันนี้ไกด์นัดเราออกจากโรงแรมตอน 8 โมง เพื่อจะเดินทางมาที่ท่าเรือ บีจำชื่อท่าเรือไม่ได้ แต่ดูเป็นท่าเรือ Local เป็นธุรกิจคนในท้องถิ่นทำกันเอง เราจองเรือไว้กับทัวร์เจ้าไหน ก็นั่งเรือกับเจ้านั้น เรือของที่นี่เรียกว่า Bangka รูปทรงเป็นเอกลัษณ์มากค่ะ จะมีการเอาไม้ไผ่มาทำเป็นตัวค้ำยันกับคลื่น ลักษณะคล้ายขาตั๊กแตน (บีคิดเอง 555) ซึ่งบอกเลยว่าเป็นส่วนเสริมของเรือที่ช่วยให้เรือไม่ล่ม เวลาต้องขับโต้คลื่นใหญ่ รู้สึกปลอดภัยกว่าเรือที่ไทยอีก

ความพีคของทริปนี้ ที่รู้ตอนขึ้นเรือแล้วก็คือ ถ้าไม่นับลูกเรือและกัปตันแล้ว บีเว่อร์กับปอนด์จ้ากลายเป็นผู้โดยสารเพียง 2 คนบนเรือค่ะ เพราะช่วงที่เดินทางไป เป็นช่วงที่ไวรัสโควิดเริ่มระบาด นักท่องเที่ยวต่าง ๆ เลยยกเลิกแพคเกจทัวร์กันหมด ก็จะมีความเหงา ๆ งง ๆ แต่ก็ Exclusive ดี

เพราะถ้าหันไปมองเรือข้าง ๆ ที่เหมือนเป็นเรือโดยสารข้ามเกาะ ก็ยังมีคนประมาณ 5-10 คนโดยสาร แต่สำหรับเรือทัวร์ไป Snorkeling และเที่ยวเกาะ Caubian มีเพียงเรา 2 คนเท่านั้นที่เป็นผู้โดยสาร ดังนั้นจะเหยียดขานอนยาวบนเบาะก็ทำได้เพลิน ๆ เลยค่ะ 

เซบู Snorkeling Time
ขณะที่เรือออกตัว เรารู้สึกได้เลยว่าวันนี้คลื่นลมแรงจัง แต่ด้วยก้านขาตั๊กแตนของเรืออันแสนปลอดภัย เราก็ไม่ได้รู้สึกกลัวว่าเรือจะล่มแต่อย่างใดนะคะ พอนั่งเรือออกจากฝั่งมาได้สัก 20 นาที เรือก็จอดลง In the middle of no where ตอนนั้นคือ งงมาก จอดทำไม มองไปซ้ายขวา ก็ยังไม่เห็นเกาะใด ๆ ที่นี่ที่ไหน พอลูกเรือทอดสมอ แล้วบอกว่า ลง ๆ เราก็เข้าใจว่าถึงจุด Snorkeling แล้ว 

เอาวะ ลงก็ลง ใส่เสื้อชูชีพให้เรียบร้อย เตรียมโดดลงน้ำ ก่อนเราจะลงน้ำกันไป น้อง ๆ ลูกเรือก็โยนขนมปังเรียกปลาให้เข้ามาใกล้ ๆ จุดที่เรือจะลง น้ำทะเลที่นี่ดูใสมาก อย่างที่เห็นในรูป เป็นสีเขียวอ่อน สวย ๆ แบบนี้เลย สวยแบบไม่ต้องเพิ่ม Saturation หลอกลวงประชาชน 555 แต่ลงไปไม่ถึง 3 นาที ดิฉันและคุณจ้าตัดสินใจกลับขึ้นเรือค่ะ เพราะกระแสน้ำแรงมาก คลื่นซัดเราจากหัวเรือไปอยู่ท้ายเรือตลอดเวลา และคลื่นที่รุนแรงก็ทำให้เรามองไม่เห็นอะไรเลย แม้น้ำจะใสแต่ก็ไม่สามารถเพลิดเพลินกันการชมปลาแหวกว่ายในน้ำได้ กระแสน้ำแรงจนเหนื่อย ความรู้สึกเหมือนมาออกกำลังกายในเกลียวคลื่น สรุป Snorkeling กันได้ไม่กี่นาที ก็เลยบอกเขาว่าพอเถอะค่ะ ไปจุดต่อไปเลยเถอะ 

ถึงแม้กระแสคลื่นจะแรง แต่น้อง ๆ ลูกเรือก็คอยดูแลความปลอดภัยเราอย่างดีนะคะ อย่างในภาพก็คือ กระแสน้ำตีปอนด์จ้าไปท้ายเรือ น้องก็เลยว่ายไปพากลับมาขึ้นบันไดเรือ และด้วยกระแสน้ำอันรุนแรง ฉันก็เลยถ่ายภาพคุณเพื่อนมาเป็นแบบนี้ค่ะ 555 หารูปดี ๆ ไม่ได้เล้ยยยย (Sorry, Pond Ja, I couldn’t find a better photo. Lols)

ระหว่างนั่งเรือต่อมา คลื่นลมเริ่มสงบขึ้น เริ่มเห็นทิวทัศน์ของเกาะรอบข้าง เจอเกาะนี้ น่ารักเตะตาดีค่ะ ที่เห็นว่าเป็นอย่างนี้ เพราะอยู่ในช่วงน้ำลง เกาะเล็ก ๆ แบบนี้มีคนอาศัยอยู่จริงนะคะ

Arrive at Caubian Island

ขึ้นมานอน พักเหนื่อยบนเรือกันต่อได้อีกประมาณ 20 นาที เรือก็จอดที่เกาะ Caubian อันแสนสวย และแน่นอนเมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่น เราก็สองคนก็สามารถถ่ายรูปทำนู่นนี่กันได้อย่างสบายใจ ไม่มีใครมาแย่ง เริ่มจากการถ่ายรูปบนสะพานปลาสร้างด้วยไม้

ต่อกันด้วยการโพสต์ท่าบนบันไดสวรรค์ (ตั้งชื่อเอง)

  นี่ค่ะ เหตุผลที่เรียกบันไดสวรรค์เพราะถ้าก้าวไปอีกขั้น ได้ล่วงตุ้บลงมาเดทสะมอเร่ ตายขึ้นสวรรค์แน่ค่ะ 

บริเวณท้ายเกาะก็มีบันไดให้ลงไปว่ายน้ำเล่น หรือพายเรือคายัค 

น้ำตื้นมากนะคะ ไม่ต้องกลัวจมน้ำ ความลึกประมาณช่วงอกของบี และเขาก็ไม่ให้พายออกไปไกลกว่าทุ่น

ตลอดเวลาช่วงพายเรือและว่ายน้ำเล่น ก็จะมีน้อง ๆ ลูกเรือช่วยดูความปลอดภัยค่ะ
เราเอาเรือออกมาพายวนไปวนมา 2-3 รอบ ถ่ายรูปเล่นแล้วก็ขึ้นฝั่ง 

มาทริปนี้นอกจาก Snorkeling และเที่ยวเล่นถ่ายรูปสวย ๆ บนเกาะแล้ว ยัง include ค่าอาหารกลางวันด้วยค่ะ อาหารถูกจัดเสริฟบนใบตอง แลดูเข้าบรรยากาศดี 

มาส่องหน้าตาอาหารใกล้ ๆ สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือ หอยสังข์ ที่นี่ให้ทานหอยสังข์ได้ด้วยหรอเพิ่งรู้ อยู่ไทยไม่เคยทาน รสชาติอร่อยดีไม่คาว ที่นี่จะจิ้มอาหารซีฟู้ด กับซีอิ๋วขาว หืมมม ถ้ามีน้ำจิ้มซีฟู้ดไทยนะ จะ 10 10 10 

นอกจากหอยก็มีปลาหมึกย่าง

กุ้งเสียบไม้

ไก่ย่าง

ไส้กรอกย่าง

แล้วก็เมนูของหวานล้างปากด้วย มะม่วงฟิลิปปินส์ 

คิดว่าทริป Snorkeling เที่ยวเกาะ Caubian สามารถเป็นอีก 1 Option ที่ทุกคนเลือกทำได้ เมื่อมาท่องเที่ยวใน เซบู นะคะ จริงๆ บนเกาะยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำร่วมกับนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ เช่น มีชิงช้าต้นไม้ให้นั่ง
มีสนามวอลเล่ย์บอลให้เล่น ถือเป็นหนึ่ง Destination ที่มาทำได้กับครอบครัว และถ้าทุกคนโชคดี ไม่เจอวันกระแสน้ำแรงอย่างบี ทุกคนก็จะสามารถเพลิดเพลินไปกับการ Snorkeling ดูปลาในน้ำใส ๆ 

นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของบทความรีวิวทริปเซบู ประเทศฟิลิปปินส์นะคะ อยากให้ติดตามกันไว้ เพราะครั้งหน้าเราจะมาเล่าถึงที่เที่ยวในเซบู ที่ไม่ได้มีแต่ทะเลค่ะ

BeeVer

บีเว่อร์ สุภาภิชญ์ ทรายแก้ว
นักเขียน บรรณาธิการบิวตี้อิสระ สาวนครสวรรค์ จบปริญญาโทด้าน Fashion and Luxury Brand Management จาก Istituto Marangoni Paris ผู้หลงใหลในการดูแลความสวยความงาม เวลาว่างชอบอ่านหนังสือการ์ตูน ดูซีรีย์เกาหลี และรายการ The Return of Super Man