• Firenze คือชื่อภาษาอิตาเลียนของเมืองฟลอเรนซ์ (Florencce)
• บัตรนี้ราคา 72 ยูโร ใช้เข้ามิวเซียมได้ 72 แห่ง ภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง
• หากจ่ายเพิ่มอีก 5 ยูโร จะได้รับบัตร Firenze Card Plus ที่สามารถใช้ขึ้นรถบัสบริษัท Ataf & Linea และรถรางได้สามวัน รวมถึงได้กระเป๋าผ้าสะพายหลังและมิวเซียมไกด์ด้วย
• Firenze Card สามารถใช้งานได้ 72 ชั่วโมง เริ่มนับถอยหลังจากการใช้ครั้งแรก แต่ Firenze Card Plus ใช้งานได้สามวัน โดยนับถึงเที่ยงคืนของวันที่สาม
• วันอาทิตย์แรกของเดือนมิวเซียมหลายแห่งเปิดให้เข้าชมฟรี ดูรายชื่อได้ที่ brunelleschihotelflorence 
• เว็บไซต์ทางการของ Firenze Card >> http://www.firenzecard.it

บัตรนี้เหมาะสำหรับใคร

• ผู้ที่วางแผนเที่ยวภายในตัวเมืองฟลอเรนซ์ติดต่อกันสามวันขึ้นไป
• มีความสนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ
• ต้องการเข้าชมมิวเซียมหลายแห่ง ไม่อยากวุ่นวายกับการต่อคิวซื้อตั๋วหรือจองล่วงหน้า

คำแนะนำก่อนซื้อ

ไม่ควรซื้อ Firenze Card เพื่อจุดประสงค์หลักในการประหยัดค่าเดินทาง เพราะค่าเดินทางในอิตาลีถูกมากอยู่แล้ว ราคาเริ่มต้นสำหรับตั๋วรถบัสอยู่ที่ 1.20 ยูโรใช้งานได้ 90 นาที และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองฟลอเรนซ์แต่ละแห่งไม่ได้อยู่ห่างกันมาก สถานีรถไฟก็อยู่ใกล้กับศูนย์กลางจุดท่องเที่ยวอย่างดูโอโม บางวันแทบไม่ต้องนั่งรถเลยด้วยซ้ำค่ะ ฉะนั้น หากจะพิจารณาใช้ Firenze Card ควรเอาเหตุผลในการเข้ามิวเซียมต่างๆ เป็นที่ตั้ง

ข้อควรรู้ในการใช้

• เข้าชมสถานที่ต่างๆ ได้ที่ละหนึ่งครั้งเท่านั้น
• เมื่อเราแสดงบัตร Firenze Card เจ้าหน้าที่จะเสียบเข้าไปในเครื่องอ่านบัตรและพิมพ์ใบเสร็จออกมา มิวเซียมแต่ละแห่งมีจุดออกใบเสร็จแตกต่างกันไป บางที่อยู่หน้าประตูทางเข้า บางที่อยู่ในร้านหนังสือ บางที่อยู่รวมกับเคาน์เตอร์ขายตั๋วปกติ โชว์บัตรแล้วสอบถามเจ้าหน้าที่เลยชัวร์สุด ครั้งแรกที่ใช้เราเดินดุ่มๆ ขึ้นบันไดถือบัตรเบ่งไปอย่างมั่นใจ โดนไล่ลงมาออกใบเสร็จที่ร้านหนังสือก่อน เซ็งเลยค่ะ
• เก็บใบเสร็จไว้ให้ดีเพราะต้องใช้แสดงร่วมกับบัตร Firenze Card ที่ประตูทางเข้า โดยเฉพาะการเข้าชมมิวเซียมต่างๆ ในพระราชวังปิตติ (Palazzo Pitti) เราจะได้รับใบเสร็จใบเดียวสำหรับการเข้ามิวเซียมห้าแห่ง อย่าเผลอทำหายกระหว่างทางเสียก่อน
• บางทีมีนิทรรศการพิเศษนอกเหนือจากมิวเซียม 72 ที่หลัก เขาจะแนบโบชัวร์มาให้ในซองพลาสติก
• มิวเซียมบางแห่งเปิดตั้งแต่ 8.15 น. บางแห่งมีวันที่ปิดดึกเป็นพิเศษ ถ้าวางแผนการเที่ยวดีๆ จะสามารถใช้ Firenze Card ได้คุ้มค่ายิ่งขึ้น

เงื่อนไขการเข้าชมสถานที่ต่างๆ ในโซน Dome แตกต่างจากมิวเซียมอื่น อ่านที่หัวข้อถัดไปได้เลยค่ะ

การเข้าชมดูโอโม
เว็บไซต์ https://www.museumflorence.com

รายละเอียดเหล่านี้มีระบุไว้ในเอกสารที่แนบมาพร้อมกับ Firenze Card แต่นำมาอธิบายไว้เผื่อใครอยากนำข้อมูลไปใช้เพื่อเตรียมตัวล่วงหน้าค่ะ การเข้าชมดูโอโมแบ่งออกเป็นห้าส่วน ได้แก่

• Baptistery หอล้างบาป ส่วนนี้ไม่กว้างมากใช้เวลาเดินชมเพียงไม่กี่นาที
• Dome หรือ Cupola ต้องปีนบันได 463 ขั้น สิ่งที่จะได้เห็นคือวิวมุมสูงของเมืองฟลอเรนซ์
• Bell Tower หรือ Campanile ต้องปีนบันได 414 ขั้น สิ่งที่จะได้เห็นคือหลังคาโดม
• Opera del Duomo Museum มิวเซียมร่วมสมัยบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของดูโอโม เราชอบที่นี่มากค่ะ
• Crypt สถานที่ฝังศพ

ไม่ว่าจะใช้ Firenze Card หรือซื้อบัตรปกติราคา 15 ยูโร ทุกคนจะต้องไปเริ่มที่จุดเดียวกันคือ Ticket office (ภาษาอิตาเลียน = Biglietteria) ตั้งอยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้า Baptistery เมื่อนำ Firenze Card ไปยื่น เราจะได้รับบัตรเป็นการ์ดแข็งๆ ที่มีบาร์โค้ดสำหรับใช้เข้าชมทั้งห้าจุดในโซนดูโอโม เวลาไปถึงประตูทางเข้าแต่ละแห่งก็นำบาร์โค้ดไปสแกนที่เครื่อง บัตรนี้ใช้งานได้ 48 ชั่วโมง นับจากเริ่มเข้าชมสถานที่แห่งแรก

หากจะปีนขึ้นทั้ง Dome และ Bell Tower แนะนำว่าควรแยกวันค่ะ ไม่งั้นจะเดินเมื่อยและกิจกรรมซ้ำๆ กันในวันเดียวมากเกินไป หรือถ้าต้องการเลือกขึ้นแห่งเดียวลองดูภาพประกอบการตัดสินใจค่ะว่าอยากเห็นวิวมุมสูงแบบไหนมากกว่า

บอกเล่าประสบการณ์

Firenze Card มีราคาแพงอยู่เหมือนกันค่ะ 72 ยูโร คิดเป็นเงินไทยตกประมาณ 2,700-2,800 บาท ถ้าวางแผนเที่ยวกันหลายคนควรตกลงกันให้ดีว่ามีความอยากเข้ามิวเซียมต่างๆ มากน้อยแค่ไหน และจะให้เวลากับเมืองฟลอเรนซ์กี่วัน สำหรับเราสามวันที่ตระเวนเข้ามิวเซียมถือว่ากำลังดีเลยค่ะ เต็มอิ่มและยังไม่ถึงกับเบื่อหน่าย แต่ถ้ามากกว่านี้ก็คงเริ่มเอียนแล้วเหมือนกันนะ อีกสองเมืองที่เดินทางไปต่อจากฟลอเรนซ์ คือเนเปิลส์และซอร์เรนโต้เราจึงพักยาวเลยค่ะ เริ่มไปเข้ามิวเซียมอีกทีตอนอยู่โรม

ทริปนี้เราเที่ยวอิตาลีตั้งแต่เหนือจรดใต้ ไล่จากเวนิส – โบโลญญา – ฟลอเรนซ์ – เนเปิลส์ – ซอร์เรนโต้ – โรม เป็นระยะเวลาสองอาทิตย์ ซึ่งวางแผนไว้คร่าวๆ แล้วว่าแต่ละเมืองจะมีจุดเน้นแตกต่างกันไป อย่างฟลอเรนซ์ขึ้นชื่อเรื่องประวัติศาสตร์และศิลปะมากเป็นพิเศษ เราจึงกะจะมาเข้ามิวเซียมที่เมืองนี้เป็นหลัก ส่วนเมืองอื่นๆ ก็เน้นถ่ายรูป ชมวิว เดินตลาด

วันแรกที่มาถึงฟลอเรนซ์ เราไม่ได้แพลนไว้ล่วงหน้า มาถึงก็เดินสำรวจเมืองคร่าวๆ เน้นแวะตามจุดชมวิวต่างๆ ที่ฟรี ยังไม่ค่อยอยากซื้อ Firenze Card ค่ะ เพราะรู้สึกว่าราคาสูงเกินไปไม่รู้จะใช้คุ้มหรือเปล่า แต่พอลองคำนวณและหาข้อมูลของมิวเซียมต่างๆ ก็พบกับความมึนงง รายละเอียดปลีกย่อยเยอะแยะไปหมด ไวไฟโฮสเทลก็ช้าเหลือเกิน ถ้ามัวแต่นั่งเสิร์ชคงไม่ได้เที่ยวกันพอดี เลยตัดสินใจจ่ายทีเดียวจบ และเมื่อใช้จนจบทริปก็ได้ข้อสรุปว่ามันคุ้มค่าสำหรับเราค่ะ 72 ชั่วโมง เราเข้ามิวเซียมและแกลเลอรี่ไปเป็นสิบที่ เล็กบ้างใหญ่บ้าง มีทั้งแนวศึกษาประวัติศาสตร์ แนวศิลปะร่วมสมัยสลับกันไป ฟลอเรนซ์เป็นเมืองที่เดินชมมิวเซียมสนุกมาก

เราเดินทางมาอิตาลีในเดือนมิถุนายน อากาศร้อนมาก ช่วงกลางวันไม่ค่อยเหมาะกับการเดินเตร็ดเตร่กลางแจ้งสักเท่าไรนัก การใช้ Firenze Card จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการหลบแดดและเข้าห้องน้ำฟรีตลอดทั้งวันค่ะ

ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด 

• Galleria dell’Accademia ที่ตั้งประติมากรรมแกะสลักหินอ่อน ‘เดวิด’ อันโด่งดัง ผลงานชิ้นเอกของมิเกลันเจโล
• Galleria degli Uffizi หอศิลป์ที่รวมงานจิตรกรรมชิ้นเอกแต่ละยุคสมัยเอาไว้มากมาย
• Palazzo Vecchio วังเก่าซึ่งปัจจุบันใช้เป็นที่ว่าการเมือง ด้านในมีฮอลล์แสดงดนตรีและมีมิวเซียมให้เดินชม สามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงบนหอระฆังได้ จากจุดนั้นจะเห็นดูโอโมชัดเจนจากระยะพอดีๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป
• Palazzo Pitti วังโบราณขนาดใหญ่ ด้านในประกอบด้วยมิวเซียมและแกลเลอรี่รวมกันห้าแห่ง

Galleria dell’Accademia และ Galleria degli Uffizi เปิดตั้งแต่ 8.15 น. แต่ละวันมีทัวร์ลงเยอะมาก ช่วงสายๆ บ่ายๆ ผู้คนล้นหลาม ควรเลือกไปเวลาเช้าหรือไม่ก็เย็นไปเลย

เราวางแผนการชมมิวเซียมแต่ละวันโดยตั้งต้นจากไฮไลต์เป็นหลักค่ะ หลังจากเที่ยวชมจุดที่สนใจเรียบร้อยก็มาดูในแผนที่ว่ามีมิวเซียมไหนอยู่ใกล้ๆ ในระยะเดินถึงแบบไม่เหนื่อยบ้าง จากนั้นก็ตะลุยไปเรื่อยๆ จนหมดวัน

ศิลปะร่วมสมัย

ฟลอเรนซ์เป็นเมืองที่เป็นจุดกำเนิดของยุคเรอเนสซองต์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ไฮไลต์ส่วนใหญ่จึงเป็นพวกสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ข้าวของโบราณ แต่ในอีกมุมหนึ่งศิลปะร่วมสมัยของที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ เราได้ใช้ Firenze Card เข้าชมอยู่สองที่

• Museo Novecento จัดแสดงงานศิลปะในช่วงศตวรรษที่ 20 ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟ วันศุกร์เปิดถึงห้าทุ่ม ชั้นบนสุดเป็นห้องฉายหนัง วันที่เราไปทางมิวเซียมฉายหนังเงียบที่ถ่ายทำในฟลอเรนซ์ยุคอดีต เสียดายไม่ได้เผื่อเวลาไว้เลยได้ดูไปแค่นิดเดียว
• Palazzo Strozzi สถานที่จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน เราได้ชมนิทรรศการ Bill Viola. Electronic Renaissance เป็นวิดีโออาร์ตที่หยิบแรงบันดาลใจมาจากงานศิลปะโบราณระดับตำนานของฟลอเรนซ์

ราคาค่าเข้าชมสถานที่ไฮไลต์
(ณ เดือนมิถุนายนปี 2017)

• สถานที่ห้าแห่งในโซน Duomo ตั๋วรวมราคา 15 ยูโร
• Galleria dell’Accademia 12 ยูโร จองออนไลน์มี service charge ต้องจ่ายเพิ่ม 
• Galleria degli Uffizi 12 ยูโร นิทรรศการพิเศษจ่ายเพิ่ม 5 ยูโร หากจองล่วงหน้าออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงคิวยาวมีค่าบริการเพิ่ม 
• Palazzo Vecchio ตั๋วสำหรับเข้าชมทุกส่วน Museum+Archeological site+Tower and Battlements 18 ยูโร
• Palazzo Pitti ตั่วสำหรับ Treasury of the Grand Dukes, Costume and Fashion Museum, Palatine Gallery and Royal Apartments, Modern Art Gallery ราคา 8.50 ยูโร ถ้าช่วงนั้นมีนิทรรศการพิเศษราคาเพิ่มเป็น 13 ยูโร
• หากต้องการเข้าชมสวนจะต้องซื้อตั๋วเพิ่ม Porcelain Museum + the Bardini Garden 7 ยูโร ถ้ามีนิทรรศการพิเศษราคาเพิ่มเป็น 10 ยูโร

หากมีเวลาวางแผนทริปล่วงหน้าและไม่ได้อยากเข้าชมมิวเซียมเยอะนัก ลองเลือกเฉพาะสถานที่ที่อยากเข้าจริงๆ และคำนวณค่าใช้จ่ายดูก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าค่าใช้จ่ายไม่ถึง 72 ยูโร ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ Firenze Card

pondjaa

ปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระและรับสัมภาษณ์บุคคล หลงใหลการอ่านหนังสือ ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม สนใจเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ สนุกกับการดูซีรี่ย์และทดลองสูตรอาหารใหม่ๆ เมื่อมีเวลาว่าง