Mirror Mirror Bangkok ได้เปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการด้วยการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดแต่งงานกว่า 40 ชุดจากคอลเล็กชั่น “Frozen Eternity of Glamor” โดยมีนางเอกชื่อดังอย่างเจนี่เทียนโพธิ์สุวรรณมาเดินชุด finale ให้ สวยเป๊ะ ปังเวอร์ ตามสไตล์
หลายๆ คนที่มองหาชุดแต่งงาน เชื่อว่าน่าจะเคยเห็นชื่อแบรนด์นี้ผ่านตาบ้างแหละใน instagram เราเป็นอีกคนที่ชอบดูชุดแต่งงานมาก และชอบมาเวลาที่แบรนด์ทำชุดแต่งงานที่ผสมผสานแฟชั่นดีไซน์เข้าไปด้วย เพระามันทำให้ดูไม่จำเจ ถึงแม้เจ้าสาวจริงๆอาจจะเลือกใส่เดรสที่ดู classic แต่การมีดีไซน์เก๋ๆไว้ในสตูดิโอ ก็สร้าง instpiration ให้เจ้าสาวได้อย่างดีเลยนะเราว่า
Who’s Mirror Mirror
Mirror Mirror คือแบรนด์ชุดแต่งงานระดับลักชัวรี่ สัญชาติไทย โดยคุณ เจษฎา สุวรรณาภัย ราคาชุดเริ่มต้นที่หลักแสนสำหรับการสั่งตัด และประมาณ 40,000 สำหรับการเช่า ซึ่งถือเป็นราคาที่ไม่ได้น้อยเลยในวงการชุดแต่งงาน
ตัวแบรนด์มีสตูดิโอไว้ต้อนรับเจ้าสาวที่ซอยพัฒนาการ 46 ซึ่งขอบอกเลยว่า สตูดิโอและบรรยากาศในการเลือกชุดแต่งงานถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆสำหรับเจ้าสาว โดยส่วนตัวแล้ว ตอนที่เรียนโทและทำ research เกี่ยวกับผู้หญิงและชุดแต่งงาน ทำให้รู้ว่า แบรนด์ชุดแต่งงานไม่ได้แค่ทำชุดสีขาวฟูฟ่องฝังคริสตัล ติดลูกไม้เท่านั้น แต่แบรนด์ต่างๆ ต้องแข่งขันกันสร้าง “ประสบการณ์” ที่ทำให้เจ้าสาวรู้สึกพิเศษที่สุด เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต นี่จึงเป็นที่มาของสตูดิโอที่โอ่อ่า กระจกใหญ่โตอย่างกับวัง พรมสีขาวนุ่ม ช่างฝีมือที่คอยให้คำปรึกษาเจ้าสาว และอีกมากมาย และนั่นเป็นหนึ่งเหตุผลของตัวเลขยาวเหยียดบนป้ายราคา
แฟชั่นโชว์
โดยในงานนี้ คุณ เจษฎา ก็ได้นำเสนอแฟชั่นชุดแต่งงานในธีม “Frozen Eternity of Glamor” ที่ได้รับแรงบันดาลใจแสนโรแมนติกจากเทพนิยายสุดคลาสสิก สวมใส่โดยนางแบบชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น แนท – อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์, โยเกิร์ต – ณัฐฐชาช์ บุญประชม และ หลิน – มชณตสุวรรณมาศ ชมภาพข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ
คอลเลกชั่นนี้ มีทั้งความหวานแบบโบธีเมี่ยน ความนางพญาเบาๆแบบ Christian Dior และความพรมแดงแบบแฟชั่นเฮ้าส์ในนิวยอร์ก เหมือน Mirror Mirror ใช้โอกาสนี้บอกเจ้าสาวทุกคนว่าทางแบรนด์มีความสามารถและพร้อมที่จะรองรับทุกความต้องการของสาวๆ อยากจะโว็ค อยากจะแนว หรืออยากจะเป็นเจ้าสาวแบบสวยคลาสสิก ทางแบรนด์ก็มีหมด โดยส่วนตัวรู้สึกว่าขาดความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในฐานะแบรนด์แฟขั่น ยังพูดไม่ได้ว่าเป็นแบรนด์ชุดเจ้าสาวแบบไหน เจ้าสาวที่ใส่เป็นคนประเภทไหน รู้เพียงแต่ว่าคัตติ้งดี คุณภาพสูง น่าติดตามนะคะว่าแบรนด์นี้จะโตไปในทางไหน
นี่นับเป็นอีกหนึ่งก้าวของวงการชุดแต่งงานเมืองไทยนะคะ ที่มีการเปิดตัวจริงจัง และลงทุนกับการสร้างแบรนด์แบบนี้ เพราะตลาดในเมืองไทย สตูดิโอส่วนใหญ่จะไม่ได้มี mindset ที่จะสร้างแบรนด์ชุดแต่งงานให้ได้อิมเมจแฟชั่นเฮาส์ ส่วนมากจะติดภาพเป็นห้องเสื้อที่รับสั่งตัดซะมากกว่า ซึ่งก็ใช่ว่าจะไม่ดี เพียงแต่ แบรนดิ้งที่ดีมักจะทำให้ธุรกิจโตและยั่งยืนกว่า คิดถึง Vera Wang หรือ Marchesa สิ หวังว่าต่อไปแบรนด์เมืองไทยจะสามารถเชิดหน้าชูตา ดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศได้มากยิ่งขึ้น แบบที่เมื่อนึกถึงชุดแต่งงานจากเมืองไทย ต้องคิดถึงแบรนด์แบรนด์นึงบ้างหละ
วันนี้จบการเม้ามอยเพียงเท่านี้ค่ะ ครั้งหน้าคอยติดตามกันนะคะว่ามีงานหรือแบรนด์อะไรมาพูดคุยกันบ้าง
ขอบคุณค่ะ
เขียนโดย Contributing Fashion Writer/Illustrator – Mee Jong
หมี จง
อดีตพีอาร์แฟชั่นกูตูร์ กำลังคว้า ป.โทด้านแฟชั่นจาก London College Of Fashion
ผู้หลงใหลในเบื้องหลังการออกแบบและแนวคิดจากศิลปินทั่วโลก สนใจแพทเทิร์นมากกว่าโลโก้ รักไอเดียเจ๋งๆมากกว่าป้ายราคา มีคติว่าจะนำความอาร์ทมาสู่วงการแฟชั่นไทย และทำแฟชั่นไทยให้ดังกว่าต้มยำกุ้ง ว่างๆชอบดูหนังตลก ถ้าว่างจัดจะนั่งเย็บผ้า
COMMENTS ARE OFF THIS POST