เมื่ออายุเลยวัย 30 มา ปัญหาผิวก็มักจะเพิ่มขึ้นตามวัย ไม่ว่าจะเป็นความหย่อนคล้อย ริ้วรอยหรือจุดด่างดำ ที่นานวันไป ก็ดูยากที่จะแก้ไข จะดีแค่ไหน หากเราสามารถดูแลผิวให้ดูดี สวยใสไม่เปลี่ยน แม้อายุจะเปลี่ยนไป
ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บีได้มีโอกาสทำความรู้จักและรีวิวผลิตภัณฑ์ Domohorn Wrinkle สกินแคร์ญี่ปุ่น ที่ช่วยรักษา “พลังในการฟื้นฟูผิวตัวเองตามธรรมชาติ” ไม่ให้เสื่อมถอย เอกลักษณ์ของแบรนด์นี้อยู่ที่ 8 ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบ “One Line” และ 1 เทคนิคการดูแลบำรุงผิวด้วยมือที่เรียกว่า “โอเทะอาเทะ”
อยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่า ดีจริงมั้ย ดียังไง มาทำความรู้จักกับ Domohorn Wrinkle ไปพร้อมๆ กัน
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว “One Line” คืออะไร
ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ขอยกคำที่ทุกคนคุ้นเคย ซึ่งได้แก่ “ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบ All in One” มาช่วยอธิบาย ผลิตภัณฑ์แบบ All in One คือสกินแคร์ที่รวมหลาย ๆ สรรพคุณ หลาย ๆ ส่วนผสมเข้าด้วยกัน เป็นแบบสะดวก ครบ จบในชิ้นเดียว ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดที่ตรงกันข้ามกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว One Line อย่างสิ้นเชิง
เพราะ Domohorn Wrinkle เป็นแบรนด์ที่ตระหนักว่า สภาพที่ผิวที่บอบบางต้องการการบำรุงนั้น ยากที่จะดูดซึมสารบำรุงทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ได้ในครั้งเดียว จากการค้นคว้าวิจัยต่อเนื่องมากว่า 40 ปี ทางแบรนด์ได้รังสรรค์ 8 ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งแต่ละชิ้นจะทำหน้าที่แตกต่างกัน แต่สามารถช่วยส่งเสริมกันและกัน และช่วยส่งผ่านสารบำรุงที่เป็นประโยชน์ ฟื้นคืนพลังของผิวคุณให้กลับมา นี่ล่ะค่ะ Concept ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบ One Line
“โอเทะอาเทะ” ดูแลผิวด้วยมือ
อีกหนึ่งความน่าหลงใหลของสกินแคร์ญี่ปุ่นแบรนด์นี้ คือเทคนิคการดูแลบำรุงผิวด้วยมือ ที่อธิบายไว้อย่างละเอียด เป็นวิดีโอทาง YouTube Channel แต่ละขั้นตอนเป็นเทคนิคที่ช่วยส่งผ่านสารบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ บอกเลยว่า เป็นวิธีที่ละเอียดมาก 555 แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ดูวิดีโอแล้วทำตามได้อย่างแน่นอน บอกตรง ๆ ว่า บีไม่เคยตั้งใจล้างหน้า ตั้งใจดูแลผิวเป็นขั้นเป็นตอนแบบนี้มาก่อน เข้าใจแล้วว่า การใส่ใจทะนุถนอมผิว สามารถช่วยให้ผิวเรา ดูดีขึ้นได้จริงๆ ถ้าอยากรู้ว่าโอเทะอาเทะละเอียดขนาดไหน สกินแคร์ทั้ง 8 ชิ้นใช้อย่างไร ไปเริ่มดูแลผิวกันเลย
8 ขั้นตอนแห่งการดูแลแบบญี่ปุ่น
DOMOHORN WRINKLE STEP 1: Oil-in-Gel Remover
ก่อนจะบำรุงก็ต้องทำความสะอาด ให้ผิวพร้อมรับสารอาหารดี ๆ ขั้นตอนแรกจึงเป็นการเคลียร์เมคอัพและสิ่งตกค้างออกจากผิว ความพิเศษของ Remover ตัวนี้ คือ มีเนื้อสัมผัสเป็นแบบเจล ที่มีน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ อาทิ ซีลาเวนเดอร์ เชียร์บัตเตอร์ โอลีฟสควาเลน แม็คคาเดเมีย และนัทบัตเตอร์ อันช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นผิว ทั้งยังมี สารสกัดจากเปลือกไม้อิจิจิคุ ช่วยจัดเรียงผิวให้เป็นระเบียบ และปรับสภาพผิวให้พร้อมรับ Silky Cream Foam ในขั้นตอนต่อไป
วิธีใช้
เริ่มจากบีบ Oil-in-Gel Remover ออกมาขนาดเท่าผลเชอร์รี่ บีบลงบนฝ่ามือที่แห้ง แล้วใช้นิ้วแตะเนื้อเจลลงบนใบหน้า 5 จุด บริเวณหน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง คาง และจมูก
ก่อนแตะลงบนผิว ต้องมั่นใจว่าใบหน้าของแห้ง ไม่เปียกน้ำนะคะ การใช้ผลิตภัณฑ์ลงบนหน้าที่แห้ง จะช่วยให้ Oil-in-Gel Remover ทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจดค่ะ
จากนั้นค่อย ๆ ใช้นิ้วทั้ง 4 เกลี่ยให้ทั่วใบหน้า และนวดวนตัวเจลเป็นวงกลม เนื้อเจลจะกลายเป็นน้ำมัน ซึ่งสามารถช่วยทำความสะอาดพวกเมคอัพกันน้ำได้เป็นอย่างดี สามารถใช้นวดบริเวณรอบดวงตาและขนตาได้ด้วยนะคะ ในวิดีโอบอกว่าให้นวดประมาณ 3 นาที นวดวนไปเลยจ๊ะแม่ ยิ่งบริเวณไหนที่ผิวไม่เรียบเนียน มีจุดด่างดำ ต้องยิ่งเน้นนะคะ
ต่อมา เมื่อแน่ใจว่าเราได้นวดจนทั่วแล้ว ก็มาล้างออกกัน โดยต้องทำการเปลี่ยนน้ำมันให้กลายเป็นน้ำนมก่อน ใช้มือแตะน้ำและนำมานวดวนลงบนผิวเบา ๆ ให้ทั่ว ปิดท้ายด้วยการวักน้ำล้างหน้าประมาณ 20 ครั้ง ให้น้ำผ่านหน้าจนสะอาด ล้างเสร็จแล้วจะรู้สึกผิวสะอาด สดชื่น ผิวนุ่มไม่แห้งตึง
เวลาที่ใช้: เย็น
DOMOHORN WRINKLE STEP 2: Silky Cream Foam
ล้างหน้าด้วยฟองโฟมเนื้อนุ่ม คุณค่าโซพนัท ประกอบด้วยสารซาโปนินจำนวนมาก ช่วยให้ได้ฟองที่ละเอียด ผสานคุณค่าซิลค์ พาวเดอร์ (รังไหม) ช่วยจับสิ่งสกปรกเล็ก ๆ ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด พร้อมสารสกัดจากตังกุยที่ช่วยกำจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ให้สัมผัสผิวนุ่มลื่น
วิธีใช้
เคล็ดลับการล้างหน้าสไตล์ Domohorn Wrinkle คือ การตีโฟมให้เนียนนุ่มและล้างหน้า 2 รอบ เริ่มจากบีบ Silky Cream Foam ลงบนฝ่ามือที่เปียก ปริมาณเท่าขนาดเมล็ดถั่วเหลือง หยดน้ำ งออุ้งมือ และตีโฟมให้เกิดฟองขนาดประมาณผลเลม่อน ใครไม่ถนัดตีเอง ใช้ตาข่ายตีฟองก็ได้นะคะ แต่เนื้อ Silky Cream Foam สามารถตีขึ้นง่ายมากค่ะ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมก็ได้ ลองศึกษาวิธีการตีได้จากเว็บไซด์ของแบรนด์
วิธีการล้างหน้า คือ ใช้ฟองโฟมที่ตีแล้ว มานวดวนลงบนผิวโดยพยายามไม่ให้โดนฝ่ามือ ฟองโฟมจะช่วยชำละล้างสิ่งสกปรกออกจากอ่อนโยน โดยไม่เป็นการรบกวนผิวมากเกินไป จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำซ้ำอีกรอบ เมื่อล้างเสร็จ จะรู้สึกว่าใบหน้าสดใจขึ้นเลยค่ะ เพราะเราได้เคลียร์สิ่งสกปรกต่างๆ ออกไปแล้ว
เวลาที่ใช้: เช้า-เย็น
DOMOHORN WRINKLE STEP 3: Softening Foam Mask
พอกฟื้นฟูผิวจากมลภาวะและความเครียดด้วย Softening Foam Mask โฟมเนื้อแน่นคุณค่ายอดอ่อนทานตะวัน ช่วยห่มผิวให้อุ่นและเนียนนุ่ม ช่วยดึงความชุ่มชื้นจากผิวออกมา
วิธีใช้
เขย่าขวด และบีบฟองโฟมเป็นแนวตั้ง ลงบนฝ่ามือที่แห้ง
ก่อนล้างโฟมออก ให้ใช้มือเกลี่ยโฟมที่หนา ๆ ออกก่อน แล้วจึงล้างน้ำเปล่าตาม โดยล้างหน้าให้น้ำผ่านหน้า 20 ครั้ง จนโฟมออกหมด ตอนทำจะรู้สึกว่าอุ่น ๆ ผิว ทำเสร็จแล้วหน้าจะนิ่มมากเลยค่ะ เราไม่เคยพอกหน้าทุกวันในตอนเย็นมาก่อน รู้สึกว่านี่เป็นเคล็ดลับเด็ดของผิวหน้านุ่มนิ่ม หน้าหยิกแก้วเลย
เวลาที่ใช้: เย็น
มอบความชุ่มชื้น ให้ผิวฉ่ำวาว ด้วยไฮยาลูรอนชนิดพิเศษ มีสารสกัดจากดอกชิรานุยคิคุและลูกพลับฮาจิยางาคิ ช่วยกระตุ้นพลังในการรักษาผิว โดยเราจะใช้ Intense Hydrator ทั้งหมด 2 รอบ รอบแรกเป็นการให้ผิวชุ่มชื้น รอบที่ 2 จะช่วยให้สารบำรุงซึมเข้าสู่ผิวด้านใน ระยะเวลาการดูแลผิวขั้นตอนนี้ประมาณ 2.30 นาที
วิธีใช้
เท Intense Hydrator ขนาดเท่าเหรียญ 2 บาทลงบนฝ่ามือ วนให้ทั่วฝ่ามือ และค่อยๆ กดลงใบหน้าอย่างเบามือ แต่ห้ามกดแรงจนหน้ายู่ หรือตบจนเกิดเสียงนะคะ ให้ใช้แรงกดที่เบาประหนึ่งเราถือเต้าหู้ขาวอยู่ในมือนั่นเอง ในส่วนของใต้ตา หางคิ้ว ข้างปีกจมูกให้ใช้ปลายนิ้วกดลงเบา ๆ
เมื่อรู้สึกว่า ไม่มีน้ำอยู่บนผิวหน้าแล้ว จึงใช้ผลิตภัณฑ์ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ได้ โดยทำตามขั้นตอนเดิมเลย หาใช้ทั่วทั้งหน้า จนรู้สึกว่าผิวนุ่มเด้งติดมือแล้ว ไปต่อกันที่ขั้นตอนต่อไปได้เลยค่า
DOMOHORN WRINKLE STEP 5: Vital White Essence
ดึงพลังให้ผิวทำงานได้มีประสิทธิภาพ สารบำรุงจากดอกโรมาเนียอาร์นิกา ช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวแลดูกระจ่างใส สารสกัดจากเชลจิงเจอร์ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นสุขภาพดี
วิธีใช้
กด Vital White Essence 1 ปั้มลงบนฝ่ามือ ใช้นิ้วแต้มบริเวณ 5 จุด หน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูกและคาง ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยผลิตภัณฑ์ให้ทั่ว จะได้ช่วยการผลัดเซลล์ผิวทั่วใบหน้า ให้หน้ากระจ่างใสอย่างทั่วถึง หลังจากนั้นใช้ปลายนิ้ว เคาะผิวเป็นจังหวะ ให้ทั่วใบหน้าใช้เวลาประมาณ 2 นาที เมื่อรู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวแล้ว สามารถใช้ Cream 20 ต่อได้เลย
เวลาที่ใช้: เช้า-เย็น
DOMOHORN WRINKLE STEP 6: Cream 20
บำรุงผิวให้ยืดหยุ่น เปล่งปลั่งจากภายใน ด้วยพลังของคอลลาเจน สกัดจากโสมขาวจากเทือกเขาฉางไป๋ซาน และคอลลาเจนจากปลาฮาโมะ พร้อมสารสกัดจากดอกทิวลิป ช่วยกระตุ้นโปรตีนที่มีพลังฟื้นฟูตัวเองจากธรรมชาติ
วิธีใช้
บีบครีมลงบนฝ่ามือ ขนาดประมาณ 2 ซม. โดยเทียบจากปากหลอดก็ได้ค่ะ หลังจากนั้นให้แต้มครีมเป็นบริเวณ 5 จุดเช่นเคย จะเป็นการกระจายเนื้อครีมให้เราเกลี่ยได้อย่างทั่วใบหน้า โดยใช้ทั้งนิ้วมือในการเกลี่ยมครีม อย่าใช้แค่ปลายนิ้วนะคะ เกลี่ยจากด้านในสู่ด้านนอก จากด้านล่างสู่ด้านบน
นวดผิวหน้าอย่างเบามือ การนวดแรงเกินไปอาจทำให้ผิวเกิดริ้วรอย นวดจนครีมซึมเข้าสู่ผิวจนหมด เช็คได้จาก ไม่มีปื้นครีมบนหน้า และนิ้วมือไม่ได้รู้สึกลื่นอีกต่อไปค่ะ หลังจากนั้นทาเพิ่มเล็กน้อย บริเวณหางตา เปลือกตา รอบปาก โดยใช้ปลายนิ้วนวดวน ถ้ามีครีมเหลือบนฝ่ามือ สามารถเอาไปทาที่คอต่อได้ค่ะ
เวลาที่ใช้: เช้า-เย็น
DOMOHORN WRINKLE STEP 7: Milky Veil Lotion
คงความชุ่มชื้นผิว ด้วยขั้นตอนการปิดล็อคสารบำรุงให้ผิวชุ่มฉ่ำ พร้อมปรับสมดุลความมัน และดูดซับความมันส่วนเดินในชั้นผิว ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนาน จากคุณค่าทิวลิปพันธ์พิงค์ไดมอนด์
วิธีใช้
กด Milky Veil Lotion 1 ปั๊ม และเกลี่ยให้ทั่วทั้งสองมือ
จากนั้นใช้วิธีกดลงให้ทั่วไปหน้า เป็นการเคลือบผิว ให้ล็อคความชุ่มชื้น กดฝ่ามือลงบนใบหน้าอย่างเบามือ นับ 1-2-3 แล้วเปลี่ยนไปกดบริเวณอื่น ทำซ้ำบริเวณละ 10 เซ็ท หลับตาและกดมือบนบริเวณจมูกและเปลือกตาด้วยนะคะ โดยกดซ้ำ ๆ ช้า ๆ อย่างอ่อนโยน เป็นจังหวะที่เท่าๆ กัน ระยะเวลาขั้นตอนดูแลผิวประมาณ 2.20 นาที
หากผลิตภัณฑ์เหลือค้างอยู่บนฝ่ามือ ก็สามารถใช้กดบำรุงผิวบริเวณลำคอด้วยได้ด้วยค่ะ เมื่อทำจนครบ 3 เซ็ทแล้ว ให้ใช้หลังมือเช็ค แตะดูว่าไม่มีน้ำหลงเหลืออยู่บนผิวแล้ว ถือว่าเป็นอันเสร็จขั้นตอนโอเทะอาเทะสำหรับตอนเย็น แต่ถ้าเป็นตอนเช้าต้องปิดท้ายด้วยการทาครีมกันแดดนะคะ
เวลาที่ใช้: เช้า-เย็น
DOMOHORN WRINKLE Step 8: UV Dress Cream
ปกป้องผิวจากรังสี UV และแสงสีฟ้าจากหน้าจอ มีค่า SPF 50+ PA++++ พร้อมลดเลือนจุดด่างดำ ฟื้นฟูบำรุงให้สีผิวดูสม่ำเสมอ สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยคุณค่าของพิมพิเนลล่า
วิธีใช้
บีบ UV Dress Cream ขนาดปริมาณเท่าเมล็ดถั่วแดง แล้วใช้ปลายนิ้วแต้มเนื้อครีม 5 จุด ลงบนบริเวณ หน้าผาก แก้มทั้ง 2 ข้าง คาง และจมูก จากนั้นใช้นิ้วเกลี่ยครีมเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้าอย่างเบามือ
เทคนิคการทา UV Dress Cream จะไม่เหมือนการกดรองพื้นลงบนผิว แต่เป็นการนวดเกลี่ยเนื้อครีมให้ซึมเข้าสู่ผิว หากรู้สึกว่าเนื้อครีมไม่เข้ากับสีผิว แสดงว่ายังเกลี่ยได้ไม่ดีนะคะ ต้องเกลี่ยให้ซึมเข้าสู่ผิวจนแลดูเป็นสีผิวธรรมชาติเลย ครีมกันแดดอันนี้จะช่วย Tone up ปรับสีผิวให้สว่างขึ้นมาอีกสเต็ป สาวผิวแทนก็ใช้ได้ค่ะ ไม่วอก แต่สว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ หลังจากเกลี่ยทั่วใบหน้าแล้ว ใช้ฝ่ามือกดลงบนผิวอย่างเบามือ เสร็จแล้วจะแต่งหน้าต่อแบบ Full Course หรือแค่ลงแป้งฝุ่นใส ๆ ก็ออกจากบ้านได้แล้วค่ะ
เวลาที่ใช้: เช้า
ความประทับใจ
ในช่วงที่ได้ผลิตภัณฑ์มารีวิว บีพักการใช้ Skincare อื่น ๆ ออกไปเลยค่ะ เพราะอยากทดลองใช้สกินแคร์ญี่ปุ่นแบบ One Line ให้ได้ตามสูตรที่เขาแนะนำ ทั้งลำดับขั้นตอนการใช้ และวิธีการทาแบบโอเทะอาเทะ เพื่อให้ได้เห็นผลลัพท์อย่างแท้จริง
ความประทับใจแรก คือ สามารถสัมผัสได้ถึงผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นทันทีหลังใช้ ด้วยวิธีการค่อย ๆ บรรจงทาผลิตภัณฑ์แต่ละตัวลงไป ให้ผิวได้ซึบซับสารบำรุงแต่ละเลเยอร์ เช้าตื่นขึ้นมาก็ยังรู้สึกได้ถึงความอิ่มน้ำของหน้า ปกติแล้วเวลานอนห้องแอร์ ตื่นมาหน้าก็จะแห้ง ๆ ใช่ไหมคะ อันนี้คือ ยังรู้สึกได้ถึงความหน้าลื่น
หลังใช้ติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ผิวเนียนและละเอียดขึ้นมา รูขุมขนแลดูเล็กลง ใบหน้าแลดูกระจ่างใส แต่ไม่ได้ขาววอก รอยสิวบริเวณหน้าผาก และริมฝีปากก็จางลงเยอะมากค่ะ
เรื่องเดียวที่ติด คือ การต้องเผื่อเวลาในการดูแลผิวให้มากขึ้น อย่างตอนเช้าก็ต้องตื่นเช้าขึ้นเพื่อให้ทำโอเทะอาเทะได้อย่างครบขั้นตอน และในระยะเวลาที่เหมาะสมค่ะ จะมีวันที่บีตื่นสาย ก็จะใช้วิธีแอบ skip การทาซ้ำไปบ้าง เพราะไม่งั้นออกจากบ้านไม่ทันจริง ๆ
แต่ทั้งหมดทั้งมวล ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องยุ่งยากนะคะ มองว่า เป็นเวลาที่เราควรสละให้กับการดูแลตัวเอง ผิวที่ดีมีได้ด้วยความตั้งใจดูแล และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อุดมไปด้วยคุณค่าสารสกัดดี ๆ ค่ะ
Domohorn Wrinkle ถือเป็นผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวตามวัยได้เป็นอย่างดี สำหรับเซ็ทที่บีได้รับมารีวิวนี้ มีชื่อว่า Half Set เป็นขนาดครึ่งนึงของไซส์ปกตินะคะ โดยจะสามารถสั่งซื้อเซ็ทนี้ได้เฉพาะครั้งแรก ครั้งเดียวเท่านั้น
หากใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้ทางโทรศัพท์และเว็บไซด์
โทรศัพท์: 02-260-2222
Website: https://bit.ly/2SiFfAv
FB: https://www.facebook.com/DomohornWrinkle.TH/
บีเว่อร์ สุภาภิชญ์ ทรายแก้ว
นักเขียน บรรณาธิการบิวตี้อิสระ สาวนครสวรรค์ จบปริญญาโทด้าน Fashion and Luxury Brand Management จาก Istituto Marangoni Paris ผู้หลงใหลในการดูแลความสวยความงาม เวลาว่างชอบอ่านหนังสือการ์ตูน ดูซีรีย์เกาหลี และรายการ The Return of Super Man
44 COMMENTS