พอมาถึงแล้ว พนักงานก็จะเอาน้ำมันมาให้เลือกค่ะ มี 3 กลิ่น Breath, Calm, แล้วก็ Power แต่ละอันคือ หอมแบบปลอมประโลมสภาวะจิตใจสุด ๆ บีเลือกกลิ่น Breath เพราะฉันต้องการพักหายใจช้า ๆ เพื่อบอกลาความเหนื่อยล้าทั้งหมดไป จริงๆ แต่ละอันเขาก็มีสรรพคุณให้เลือกแหละ ส่วนตัวคือเลือกตามความชอบเลย บีเลือกกลิ่นที่ความให้รู้สึกว่า กลิ่นนี้แหละ คือ ฉัน นี่แหละฉัน ที่เป็นฉัน
พี่หมอนวดจะให้เรานอนคว่ำก่อน เอาผ้าห่มมาคลุม แล้วเริ่มจากการเอาผ้าขนหนูอุ่นมาเช็ดทำความสะอาดเท้า จากนั้นก็เริ่มนวดไปตามขั้นตอน ซึ่งเทคนิคการนวดแอนตี้สแตรสของที่นี่ จะเป็นการใช้นิ้วมารีดไล่เส้น เพื่อหาจุดตึง หรือจุดกดเจ็บที่เป็นที่มาของอาการปวดร้าวในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งหมอนวดที่นี่ ก็คือ นวดดี ฟิน และไล่เส้นได้โดนจุดมากค่ะ สอบถามเพื่อน ๆ ทุกคนที่มานวดด้วยกันแล้ว ว่านวดโอเคเลย พี่หมอนวดของบี เขาจับเส้นแล้วสามารถบอกได้เลยว่าเพราะมีพังผืดตรงนี้ เลยทำให้ปวดส่วนนี้ ซึ่งคนทำงานหน้าโต๊ะคอม ชอบนั่งไขว่ห้างอย่างบี บอกเลยว่าหลัง บ่า ขา คอตึง และมีจุดกดเจ็บอยู่หลายจุดอยู่ค่ะ ที่ต้องนวดเน้นค่ะ
ความฟินของที่นี่นอกจากทักษะความชำนาญของพี่หมอนวดแล้ว ก็คือ เตียง จ้า ที่นี่ใช้เตียงนวดที่ปรับอุณหภูมิให้อุ่นได้ ปกติเวลาไปนวดน้ำมันที่อื่น ปัญหาที่พบบ่อยคือ ความหนาว ของการถอดเสื้อผ้าแล้วใส่แต่ กกน. นี่แหละ ต่อให้ผ้าห่ม 2-3 ผืนบางทีก็แอบตัวสั่นเบา ๆ อยู่ดี แต่เตียงอุ่นที่นี่ขจัดทุกปัญหาเหล่านั้นไป เรียกได้ว่าเป็น เตียงดูดวิญญาณ ในขณะที่พี่หมอกำลังนวดโฟกัสจุดหนึ่งจุดใดอยู่ เจ้าเตียงนี้จะช่วยโอบอุ้มทั้งร่างกายให้อยู่ในโหมดของความสุขสงบ 555 จะหาว่าเว่อร์ ไปลองๆๆ แล้วจะรู้ AroundTheGirlz ให้ 10 10 10
สำหรับทริปนวดนี้สมาชิก AroundTheGirlz ขอลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าเราจะกลับมาเยือน Ikigai Spa Bangkok กันอีกครั้งแน่นอน เพราะพึงพอใจเป็นอยากมาก
ใครกำลังมองหาสปาไว้ปลอบประโลมกายใจ ทัก
บีเว่อร์ สุภาภิชญ์ ทรายแก้ว
นักเขียน บรรณาธิการบิวตี้อิสระ สาวนครสวรรค์ จบปริญญาโทด้าน Fashion and Luxury Brand Management จาก Istituto Marangoni Paris ผู้หลงใหลในการดูแลความสวยความงาม เวลาว่างชอบอ่านหนังสือการ์ตูน ดูซีรีย์เกาหลี และรายการ The Return of Super Man
NO COMMENT