fbpx
READING

บรรยากาศและวิธีเดินทางไปคาเฟ่หมา Agapet โลเคชั่นถ่...

บรรยากาศและวิธีเดินทางไปคาเฟ่หมา Agapet โลเคชั่นถ่าย Wanna One Go EP.2 ทริปติ่ง #ตามรอยWannaOne

ก่อนเข้าเนื้อหาขอเกริ่นสั้นๆ ถึงรายการ Wanna One Go เล็กน้อย เผื่อคนที่ไม่เคยติดตามเข้ามาอ่านนะคะ

Advertisements

Wanna One Go เป็นรายการเรียลลิตี้ของวงไอดอลเกาหลี Wanna One ค่ะ แต่ละ EP. จะมีกิจกรรมและภารกิจต่างๆ ให้สมาชิกในวงทำร่วมกัน โดยภารกิจแรกที่เปิดตัวรายการก็คือ 1×1=1 เป็นการให้ผู้ชมทางบ้านโหวตเข้ามาว่าอยากให้สมาชิกในวงคนไหนจับคู่กัน จากนั้นทั้งคู่ก็จะต้องผูกข้อมือติดกันด้วยเชือกสีแดงความยาว 1 เมตร เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง ถ้าทะเลาะกันเชือกจะถูกลดความยาวลงครั้งละ 20 เซนติเมตร แต่เนื่องจากสมาชิกวงมี 11 คน จึงมีกลุ่มหนึ่งที่ต้องผูกติดกันสามคน

ว่ากันอย่างตรงไปตรงมา มันช่างเป็นภารกิจที่เซอร์วิซสาววายมากเว่อร์ นั่งดูแล้วเขินตัวบิดจินตนาการพุ่งพล่าน ร่ำเรียนด้านสื่อมาพอสมควร รู้แก่ใจว่าหลังกล้องมีทีมงานมากมาย แต่ก็อินมากอยู่ดีค่ะ โดยคู่ที่เราหวีดหนักมากคือ แพจินยอง x อีแดฮวี น้องอยู่ด้วยกันแล้วมันเรียลมันน่ารักไปหมด ตายแล้วๆๆๆ วันๆ นั่งส่องแต่แท็ก #จินฮวี #ดีพฮวี #JinHwi #DeepHwi ในทวิตเตอร์

นั่นแหละจ้ะ… จึงเป็นที่มาของทริปติ่งให้รู้ว่าติ่ง ชิปให้รู้ว่าชิป อินหลอ? ช่ายอินมากกก ว่าแล้วก็กดตั๋ว BKK – Seoul ตามไปอินถึงคาเฟ่หมา ซึ่งเป็นโลเคชั่นถ่าย Wanna One Go EP.2

ตอนวางแผนทริปได้รับคำแนะนำมากมายจากสมาพันธ์ชาวติ่งทั้งในพันทิป เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เลยตั้งใจว่ากลับมาจะแปะรีวิวไว้ เผื่อใครอยากไปบ้าง จะได้วางแผนง่ายขึ้นนะคะ

คาเฟ่หมา Agapet อยู่ที่เมืองอิลซาน (Ilsan) เขตเมืองใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อแบ่งเบาปัญหาประชากรหนาแน่นของกรุงโซล สามารถเดินทางมาถึงได้ด้วยรถไฟใต้ดินสาย 3 สีส้ม ลงสถานีชองบัลซาน (Jeongbalsan)

ละแวกนี้มีสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น Ilsan Lake Park  สวนสาธารณะริมน้ำบรรยากาศโรแมนติก เหมาะแก่การมาชมดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ สวนนี้เป็นโลเคชั่นถ่ายซีรีย์เกาหลีหลายเรื่องเลยค่ะ

รายชื่อซีรีย์ที่มีฉากถ่ายทำใน Ilsan Lake Park

  • Radiant Office (2017)
  • Introverted Boss (2017)
  • W-Two Worlds (2016)
  • Happy Home (2016)
  • Lucky Romance (2016)
  • I Have a Lover (2015-16)
  • Mask (2015)
  • Sensory Couple (2015)
  • Yoo-Na’s Street (2014)
  • My Love From Another Star (2013-14)
  • The Heirs (2013)
  • To The Beautiful You (2012)
  • A Gentleman’s Dignity (2012)
  • Dream High (2011)
  • Shining Inheritance (2009)
  • A Star’s Lover (2008-09)
  • 9 End 2 Outs (2007)

ข้อมูลจาก http://koreandramaland.com/listings/ilsan-lake-park/
ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องไหนถ่ายฉากอะไรที่นี่บ้าง เข้าไปดูได้ตามลิงก์เลยค่ะ

นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ MBC Dream Center สถานที่อัดรายการต่างๆ ของ MBC แล้วถ้านั่งรถไฟใต้ดินต่อไปอีกสองสถานี ลงสุดสายที่ Daehwa ต่อรถบัสสาย 200 ก็จะสามารถเดินทางไปยัง Gyeonggi English Village หมู่บ้านอังกฤษ จังหวัดคยองกี ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายรายการ Produce 101 ซีซั่น 2 บ้านหลังใหญ่แห่งความทรงจำ อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ติ่งชาวไทยหลายคนล้มละลายอยู่ในขณะนี้

ถ้าเดินทางมาจากย่านฮงแดด้วยรถไฟใต้ดิน จากสถานี Hongik Univ. มาถึง Jeongbalsan จะใช้เวลา 32 นาที ค่ารถเที่ยวละ 1,450 วอน (ราคาเมื่อจ่ายด้วย T-Money) หรือถ้ามาจากย่านเมียงดง จากสถานี Myeong-dong มาถึง Jeongbalsan จะใช้เวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที ค่ารถเที่ยวละ 1,650 วอน

พอลงจากรถไฟใต้ดินปุ๊บให้ออกทางออก 1 ค่ะ เดินตรงไปนิดนึงจะเจอแยกให้เลี้ยวขวา จุดสังเกตคือป้ายบอกทางไป Ilsan Lake Park  

เส้นทางเดินง่ายไม่ซับซ้อน แต่เราเป็นคนโง่เรื่องทิศทางมาก เลยเปิดแผนที่ผ่านแอป Citymapper ไปด้วยเพื่อความชัวร์ ซึ่งเราล็อกจุดหมายไว้ที่ MBC Dream Center เนื่องจากใส่ชื่อคาเฟ่เป็นภาษาอังกฤษแล้วแอปหาตำแหน่งไม่เจอค่ะ

วิธีการใช้งาน Citymapper อย่างละเอียด อ่านได้ที่ 

แอปตัวช่วยเพื่อการเดินทางในโซล สำหรับคนเที่ยวเกาหลีเองครั้งแรกและไม่รู้ภาษาเกาหลี

เดินมาจนสุดทางจะเจอทางแยกและเห็นตึก MBC ตั้งตระหง่านอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน ไม่ต้องข้ามไปนะคะ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามลูกศร

เดินไปอีกไม่ไกลจะเจอร้านไดโซะ เงยหน้าขึ้นไปมองจะเห็นคาเฟ่หมา Agapet อยู่บนชั้น 3 ร้านรวงในย่านนี้จะเป็นลักษณะแบบนี้เยอะมาก คือสร้างเป็นอาคารพาณิชย์แล้วมีหลายๆ ร้านใช้พื้นที่ร่วมกัน อันนี้เราสันนิษฐานเอาเองว่า เป็นนโยบายในการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยให้คุ้มค่า เพราะที่นี่เป็นเขตเมืองใหม่ที่พัฒนาขึ้นทีหลัง

เจอคาเฟ่แล้ววว แต่หาทางขึ้นไปชั้น 3 ไม่เจอ แป่ว… เดินวนๆ อยู่แป๊บนึง ในที่สุดก็เจอทางเข้า

วันธรรมดามีค่าเข้า 4,000 วอน วันหยุด 5,000 วอน เครื่องดื่มเราสั่งเป็นโกโก้ร้อน 2,500 วอน เขาให้คุกกี้ชิ้นเล็กๆ มาด้วย แต่ไม่ใช่ของคนค่ะเป็นของน้องหมา เกือบเผลอกินแล้วด้วยความตะกละ 555

พอเราขยับห่อคุกกี้น้องหมาจะเข้ามาเฟรนด์ลี่หนักมาก ปีนป่ายไปทั่ว

มานั่งบนเสื้อโค้ทตูอีก ลงป๊ายยย ต้องเก็บไว้ใส่อีกหลายวันนะเฟ่ย

สารภาพตามตรง เราเป็นคนไม่ค่อยอินกับสัตว์เท่าไหร่ค่ะ มาด้วยอินเนอร์ความติ่งล้วนๆ หมาเหมออะไรไม่ได้สนใจมาก คือมันก็น่ารักดี แต่เราไม่ได้วี้ดว้ายอยากจะอุ้ม อยากจะนัวเนียด้วยมากมายนัก พนักงานเขาก็มองเราแบบงงๆ อีนี่มาคนเดียว แถมยังดูไม่ค่อยรักหมา แกมาทำไมฟะ

มาเพื่อถ่ายรูปนี้เลย รูปเดียวจบ พอใจละ 5555

ระหว่างนั่งชิลล์เล่นเน็ตไปเรื่อย น้องหมาก็ผลัดกันเดินมาตะกุยบ้าง เดินมาเยี่ยวใกล้ๆ บ้าง เอาเลยจ้ะเอาที่สบายใจ

ไปช่วงเดือนธันวาคม ร้านตกแต่งเป็นธีมคริสต์มาสน่ารักดีค่ะ

ระหว่างทางเดินกลับไปขึ้นรถไฟใต้ดิน พระอาทิตย์กำลังใกล้ตกพอดี แสงเย็นสวยดีค่ะ ส่วนตัวรู้สึกว่าต่อให้ไม่ติ่ง ก็เป็นย่านที่น่ามาเที่ยวอยู่เหมือนกัน บรรยากาศชิลล์ๆ อากาศดี ไม่แออัดพลุกพล่าน

ครั้งนี้เรายังไปไม่ถึง Ilsan Lake Park กับ Gyeonggi English Village เหตุผลคือ ‘ลืม!!’ ช่วงที่เราไปอากาศมันหนาวมากกกก ลบสิบกว่าองศา หนาวจนเบลอไปหมด รู้ตัวอีกทีนั่งรถไฟจะถึงใจกลางเมืองโซลแล้ว เอ๊ะ เหมือนลืมทำอะไรสักอย่าง อ๋อ ลืมไปอีกสองที่นั่นเอง ไว้โอกาสหน้าฟ้าใหม่อากาศอบอุ่นกว่านี้อาจจะกลับไปแก้มืออีกครั้ง แล้วจะเก็บภาพมาฝากกันนะคะ ^^’


COMMENTS ARE OFF THIS POST