ตั้งอยู่ระหว่างเอกมัยและทองหล่อ อาคารสองชั้นสีขาวที่แลดูเหมือนบ้านที่อบอุ่น มีสไตล์ เขียวขจีด้วยต้นไม้ล้อมรอบ คือที่ตั้งของร้านอาหารวังดินสอ หรือ “The Gardens of Dinsor Palace” ที่เราจะพาเพื่อนๆ มาลิ้มรสกันวันนี้

เพียงแค่เลี้ยวเข้ามาในซอย เราก็รู้สึกได้ถึงความร่มรื่น น่าอยู่ (และแน่นอน ความหรูหราแบบผู้ดี) อาจเป็นเพราะบรรยากาศรอบๆ หรืออาจเป็นเพราะชื่อ “วังดินสอ” แต่ที่แน่ๆ มันเป็นความรู้สุกที่อบอุ่นบอกไม่ถูก

เมื่อเดินเข้ามา สิ่งแรกที่พบ นอกจากยามโบกที่จอดรถ ก็คือหินศิลาก้อนโตที่ชวนให้อ่านประวัติของที่มา และแน่นอน ขึ้นชื่อว่า “วัง” มันก็ต้องเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ เพื่อนๆลองขยายภาพอ่านดูได้เลย เพราะเราอยากพูดต่อถึงจุดน่าสนใจอื่นๆ ของร้านอาหารนี้แล้วหละ

เมื่อเดินเข้ามา คุณจะพบกับต้นไม้ ดอกไม้ ทางเดินหิน สวยงามแต่ไม่เกินตัว ไม่ถึงกับสวนดอกกุหลาบแวร์ซาย แต่ก็ดูน่าอยู่มากทีเดียว และทางเดินขึ้นร้านอาหารชั้นสองประดับประดาด้วยดอกไม้ ให้ฟีลบ้านตากอากาศเบาๆ ตะวันตกผสมตะวันออกหน่อยๆ

ในวันที่อากาศดี สวนด้านนอกก็เหมาะแก่การนั่งพูดคุยอยู่ ว่าแต่ วันไหนอากาศจะไม่ร้อนนะเอ่ยยยยย

เมื่อเดินมาถึงด้านหลังของอาคาร คุณจะพบกับบ่อน้ำเล็กๆ และสะพานไม้เลื้อยให้คุณได้ถ่ายภาพงามๆ และคุณหงส์ขาวและหงส์ดำ ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนซี้กัน ว่ายวน โชว์ปีก ชูคอ เกาตัวเองบ้างเป็นครั้งคราว เห็นแล้วความเป็นอังกฤษลอยมาเลย อ๊ะ แต่เค้าติดป้ายไว้ชัดเจนนะคะ ว่าห้ามให้อาหาร

และเนื่องจากอากาศออกจะอบอุ่นเกินไปซะหน่อย เราก็ขอนั่งทานอาหารกันในอาคารละกันนะ เพราะร่างกายต้องการแอร์คอนดิชันนี่งมากมาย และเมื่อเดินเข้ามา เราก็ดีใจอย่างยิ่ง โอ้มายก๊อด เพราะเราได้นั่งโต๊ะข้างกระจก ตรงที่จอดนกยูงสีขาวตัวนี้! ที่บอกว่าที่จอดก็เพราะมันเป็นแท่นไม้ที่นกยูงสุดสวยนี่ชอบมายืนพัก เราจึงได้มองมันใกล้ๆ รู้สึกเหมือนได้นั่ง Front Roll เลยแฮะ

มาที่เรื่องอาหารดีกว่า เกือบลืมละว่ามาอวดอาหาร 555

เริ่มกันที่ starter เราสั่งตับไก่มา ขอบอกว่ารสชาติแปลกกว่าที่อื่นนะ มีความหอมมันเนยมาก อาจออกเลี่ยนไปสำหรับคนที่ไม่คุ้นชิน ส่วนตัวชอบแบบเลี่ยนน้อยกว่านี้ อย่างเช่นของ Grey Hound มากกว่า จานนี้ราคา 270 บาทจ้า

ออร์เดอร์ main dish ก็พิซซ่าเลยจ้า หน้า Spicy Chorizo บางกรอบ หอมอร่อย ถาดใหญ่ปรกติ ถือว่าดี ราคา 430 บาท

เมนูต่อมาซี่โครงบาร์บีคิว หอมอร่อย นุ่มมาก ขอบอกว่าอันนี้เราเลิฟ และที่เห็นนี่คือขนาดครี่งเดียวนะจ๊ะ เมนูจะมีให้สั่งแบบเต็มและแบบครึ่ง ดีนะสั่งอันเล็กมา ราคา 450 บาท

สลัดเล็กน้อย เพื่อเพิ่มใยอาหาร Whole Leaf Ceasar Salad ที่มาพร้อมไข่ต้มมะตูมและปลาเค็ม จริงๆ ถ้าเป็นไข่ที่เหลวกว่าน่าจะอร่อยกว่า แต่อันนี้ก็แล้วแค่คนชอบอะนะ แต่ที่เสียดายคือไก่ไม่สุกจ้า เจอชิ้นไม่สุกตอนเกือบจะทานหมดจาน (อาจถือว่าโชคดี หรือจริงๆ อาจทานแบบไม่สุกไปแต่ไม่รู้ตัว 555) เลยบอกพนักงาน และร้านก็รับผิดชอบด้วยการนำสลัดออกจากโต๊ะและย่างไก่ที่เหลือให้ใหม่ มาเป็นไก่จานเล็กๆ 1 จาน จริงๆ ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากเพราะก็อิ่มแล้ว แต่ก็คิดว่าน่าจะใส่ผักที่เหลือมาให้ด้วย เพราะอยากได้สลัดมากกว่าไก่ 555 จานนี้ราคา 290 บาท

เรื่องของเครื่องดื่ม mocktail ที่นี่ก็รสชาติน่ารักอยู่ แต่ลืมถ่ายรูปมาให้เชยชม เอาเป็นเมนูไปดูแทนละกันเนอะ ขอแนะนำ I Love Paris! 

ทั้งมื้อนี้ ราคาสงวนอยู่ที่ราวๆ 2 พันกว่า สำหรับ 3 ที่ ก็ถือว่าราคาสมเหตุสมผล ได้รูปน่ารักๆ กับครอบครัว ดูหงส์ ดูนงยูง (จริงๆ ก็แอบคิดนะว่ามันเบื่อมั้ยที่ต้องอยู่ในร้านอาหารแบบนี้) บรรยากาศโดยรวมถือว่าน่ารักมาก สถานที่สวยงาม เหมาะแก่การจัดงานแต่งงานน่ารักๆ ได้เลย เพราะครั้งแรกที่ได้มาที่นี่ ก็เพราะงานแต่งงานของรุ่นพี่ บรรยากาศน่ารัก อบอุ่นมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อมีซุ้มดอกไม้

จบแล้วกับการรีวิวนี้ ครั้งหน้าเราจะพาไปชิมร้านขนมไทยกัน! ติดตามกันได้นะคะ

เขียนโดย Contributing Fashion Writer/Illustrator – Mee Jong

meejong

หมี จง
อดีตพีอาร์แฟชั่นกูตูร์ กำลังคว้า ป.โทด้านแฟชั่นจาก London College Of Fashion
ผู้หลงใหลในเบื้องหลังการออกแบบและแนวคิดจากศิลปินทั่วโลก สนใจแพทเทิร์นมากกว่าโลโก้ รักไอเดียเจ๋งๆมากกว่าป้ายราคา มีคติว่าจะนำความอาร์ทมาสู่วงการแฟชั่นไทย และทำแฟชั่นไทยให้ดังกว่าต้มยำกุ้ง ว่างๆชอบดูหนังตลก ถ้าว่างจัดจะนั่งเย็บผ้า