ด้วยความที่เป็นคนผิวคล้ำ ริมฝีปากของบีก็จะคล้ำตามหน่อย ซึ่งแน่นอนมันเป็นเรื่องปกติ แต่การมีริมฝีปากที่ดูคล้ำ ก็ไม่ได้ทำให้ดูบุคลิกดีเท่าไหร่ อาจจะด้วยค่านิยมการ Crazy ความขาวหรือใด ๆ ของคนไทย หรือจะแอบเหยียดผิวนิด ๆ หรือชอบเหมารวมก็ตาม คนก็จะชอบทักว่า สูบบุหรี่หรือเปล่า ปากดูดำ ๆ ไรงี้ เราก็แบบ ไม่โว้ยยยย ไม่สูบโว้ย ดำธรรมชาติ ผิวสีคล้ำ จะให้ปากขาวไหง?
ถ้าตัดเรื่องความเดือดออกไป การมีริมฝีปากคล้ำก็เป็นหนึ่งอุปสรรคในการแต่งหน้า เพราะเรามีเบสเนื้อสีปากที่คล้ำ ถ้าต้องการให้สีลิปสติกที่ซื้อมาใช้โดดเด้งจริง ต้องกลบด้วย Concealer ก่อนลงสีลิปใด ๆ ซึ่งในชีวิตประจำวันเราก็ขี้เกียจจะมาคอลซีลทุกวี่ทุกวัน ทาเยอะก็ปากหนาเตอะ เป็นขุยอีก คือ บางทีก็อยากตื่นมา ทาลิปมันแล้วสวยเลยสไตล์ Work Up Like This อะไรแบบนี้
ซึ่งทางแก้ปัญหาก็มี แต่ยังไม่ได้ลองสักที เพราะ 1 ไม่มีเวลา และ 2 กลัวเจ็บ เหอะๆ แต่นี่มัน 2020 แล้วนะ ถ้าใจอยากจะออกไปผจญภัยโลกกว้าง เที่ยวแบบ Adventure เราก็มองการสักปากเป็นอีกหนึ่ง Adventure ที่ต้องข้ามผ่านสิ เพราะคิ้วก็เคยสักสามมิติมาแล้ว ตอนนี้ก็ชีวิตดี มีคิ้วจัดทรงง่ายไม่ต้องทำอะไรมาก อ่ะมาลองดูกันสักตั้งกับการสักริมฝีปาก เพื่อการแต่งหน้าที่ง่ายขึ้น
หลังจากตัดสินใจแล้วว่าจะทำ บีก็ดูรีวิวในเน็ต จากเพจ Facebook นู่นนี่ แล้วมาเจอกับร้าน The Art Brows ดูรีวิวเคสลูกค้าเก่าหลาย ๆ คนก็มีริมฝีปากคล้ำเหมือนบีเลยค่ะ เลยรู้สึกว่าที่นี่น่าจะช่วยแก้ปัญหาของเราได้
หลังจากนัดหมายก็ไปถึงที่ร้านตามเวลานัด ร้านอยู่ใกล้ ๆ มหาวิทยาลัยหอการค้า
ที่นี่มี 2 เตียงนะคะ ก็ควรนัดก่อนไป ถ้า Walk-in นี่ไม่มีทางได้แน่นอน
ขั้นตอนก่อนการสักก็จะมีการสครับปาก และทายาชาโปะไว้ บีเอาหูฟังไปดูซีรีย์จากมือถือระหว่างทำด้วยเพื่อดึงความสนใจตัวเองจากความเจ็บค่ะ แต่บางช่วงก็ดูมือถือไม่ได้นะคะ เพราะช่างสักไม่ถนัด
สักปาก เจ็บไหม?
ต้องยอมรับตามตรงค่ะ ว่าต่อให้โปะยาชาแล้วก็เจ็บจริงอะไรจริง เจ็บความรู้สึกเหมือนมีคนเอามีดโดนมากรีดๆๆๆ ที่ริมฝีปากอ่ะ แต่ก็ทนได้ แค่นี้ไม่ตายค่ะ “อยากสวยก็ต้องทน” “เจ็บวันนี้ สวยวันหน้า” คติประจำใจของ AroundTheGirlz
ในส่วนของระยะเวลาในการทำก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนค่ะ อย่างของบีไปฉีดฟิลเลอร์มา ก็ใช้เวลานานกว่าปกติหน่อย พี่เขาบอกว่าทำยาก แต่ทำได้ เพราะเนื้อปากเราจะไม่ได้เรียบ ให้เขาสักได้ง่าย ๆ มันจะมีความนูนของฟิลเลอร์ไปเป็นอุปสรรคของพี่เขาอยู่ ดังนั้นเป็นทริคนะคะ ถ้าใครอยากทั้งสัก ทั้งฉีดฟิลเลอร์ ไปสักก่อนฉีดจ้า แล้วช่างสักจะขอบคุณ 555
หลังสัก ริมฝีปากจะบวมเป็น Kylie Jenner เลยค่ะ คือบวมเป็นสาย ฝ. และสีมันจะฉูดฉาดเกินเบอร์มาก คือ ในชีวิตจริงเราก็ไม่ทาปากสีนี้ นึกออกปะ แต่ ๆ ๆ ๆ มันก็ต้องเข็มเบอร์นี้แหละเพื่อให้ผลลัพท์ออกมาดูดีหลังสีลอกแล้ว
ด้วยความที่ปากเข้มเบอร์แรงมาก ดิฉันก็เลยต้องแต่งหน้า และใส่ชุดแจ่ม ๆ สู้ค่ะ จะหน้าโล้น ปากเต็มเดี๋ยวเพื่อนร่วมงานยิ่งตกใจ และดิฉันก็เลือกที่จะใส่มาสก์ไปทำงาน เพราะด้วยความบวมเบอร์ไคลี่นั่นแหละค่ะ ที่ทำให้ไม่มั่นใจเท่าไหร่ 2-3 วันหลังจากทำก็เริ่มไม่บวมแล้ว
หลังจากนั้นประมาณ 3 สีวัน ริมฝีปากก็จะเริ่มหลุดลอกค่ะ คือที่ร้านจะให้ลิปมันของ Himalayan มาขยันทา และช่วงวันแรก ๆ ก็ต้องหลีกเลี่ยงไม่โดนน้ำ ไม่ทานของร้อน เพราะเดี๋ยวจะแสบปาก และก็มีข้อแนะนำอีกนิดหน่อยที่ให้มาเป็นรูปคู่มือเลยค่ะ อ่านง่ายผ่านทางมือถือ
พอหลุดหมด ก็จะยังมีความกระดำกระด่างอยู่บ้าง จะเห็นได้ว่าสีริมฝีปากจะยังไม่ขึ้นมาทันทีนะคะ ต้องใช้เวลาผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ผลักสีที่ฝังไว้ขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่แค่นี้ในลำดับแรกก็ถือว่า สีสวยขึ้นจากปากเดิมของบีแล้วค่ะ
และนี่ก็คือสีปากของบีหลังสักมาแล้ว 3 เดือนค่ะ ดูชมพูน่ารักขึ้นมาก จริง ๆ ที่ร้านต้องให้ไปสักซ้ำอีกรอบ แต่ด้วยการติดช่วง Lock-down โควิดมายืดยาวบีก็เลยไม่ได้ไปทำอีกทีค่ะ แต่ทำสีแค่ครั้งเดียวก็ได้ผลลัพท์ที่น่าพอใจแล้วนะคะสำหรับบี
ดังนั้น AroundTheGirlz ขอคอนเฟิร์มเลยค่ะว่า การสักสีปาก ช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากหมองคล้ำได้ ใครอยากไปทำกัน ดูรายละเอียดของร้านเพิ่มเติมจากข้อมูลด้านล่างได้เลยค่ะ
The Art Brows
ที่อยู่: 106/5 ถนน วิภาวดีรังสิต ซอย 2 แขวง ดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
เวลาทำการ: 9.00 – 19.00 น.
โทร: 089 964 2926
Facebook: https://www.facebook.com/theartbrows/
บีเว่อร์ สุภาภิชญ์ ทรายแก้ว
นักเขียน บรรณาธิการบิวตี้อิสระ สาวนครสวรรค์ จบปริญญาโทด้าน Fashion and Luxury Brand Management จาก Istituto Marangoni Paris ผู้หลงใหลในการดูแลความสวยความงาม เวลาว่างชอบอ่านหนังสือการ์ตูน ดูซีรีย์เกาหลี และรายการ The Return of Super Man
COMMENTS ARE OFF THIS POST